
เดย์มอนด์ จอห์น Daymond John

เศรษฐีหมื่นล้านที่สร้างฐานะขึ้นมาด้วยตนเอง จากเด็กแจกใบปลิวและเด็กเสริฟอาหาร กระทั่งได้เห็นโอกาสทางธุรกิจด้านเสื้อผ้าแฟชั่น เขาสามารถสร้างแบรนด์ที่ชื่อ FUBU ที่มีมูลค่าแบรนด์สูงถึง 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราว 2 แสนล้านบาท
นี่คือ 5 เคล็ดลับที่นำพาเขาไปสู่ความสำเร็จ
เคล็ดลับที่ 1 ทรัพยากรมนุษย์คือเบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจ
เดย์มอนด์ จอห์น มักจะลงทุนกับคนเสมอ หากเขามั่นใจว่าคน ๆ นั้น จะสามารถนำพาบริษัทไปถูกทิศทางและก้าวไปสู่การประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในอนาคต
เขามักจะทดสอบพนักงานด้วยการตั้งโจทย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจงรักภักดีต่อแบรนด์ ความเชื่อมั่นในไอเดียบริษัท รวมไปถึงความสามารถในการติดตามกระแสแฟชั่นให้ทันแต่ละยุคสมัย
และไม่ว่าคน ๆ นั้น จะมีประสบการณ์ในการทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแฟชั่นมากหรือน้อยก็ตาม สิ่งที่เขาสนใจมากกว่า คือ ประสบการณ์ความล้มเหลวมีมากพอที่จะตัดสินใจได้ว่า "อะไรเวิร์คหรือไม่เวิร์ค"
รวมไปถึงการลงทุนในตัวคุณเอง เพราะคุณคือผู้ก่อตั้งและเป็นหนึ่งในบุคคลากรสำคัญขององค์กร หากผู้ก่อตั้งไม่มีทักษะหรือประสบการณ์มากพอ ก็อาจทำให้ไอเดียที่ดีที่สุดล้มเหลวไม่เป็นท่าได้ แต่ในขณะที่ผู้ก่อตั้งที่มีทักษะมากพอ ขอเพียงไอเดียง่าย ๆ ก็สามารถทำให้มันปังได้ ดังนั้น คุณจงให้ความสำคัญในการลงทุนในตัวเองมากพอ ๆ กับที่คุณลงทุนไปในบริษัทของคุณ
เคล็ดลับที่ 2 ให้ความสำคัญกับตัวเลขทุกตัวในธุรกิจ
หากพบว่าตัวเลขการเงินในธุรกิจมันดูขัดแย้ง ไม่สมเหตุสมผลกับธุรกิจของคุณ ต่อให้คุณเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกก็สามารถ "เจ๊ง" ได้
มันจะดีกว่ามาก หากธุรกิจของคุณทำเงินได้ปีละ 100 ล้านบาทและมีกำไร 1 ล้านบาท คงไม่ดีแน่หากธุรกิจคุณมียอดขาย 1,000 ล้านบาทแต่กลับขาดทุน 10 ล้านบาท อย่าเข้าใจผิดว่า "ธุรกิจใครดีใครใหญ่กว่ากัน โดยวัดกันที่ยอดขาย" แต่แท้จริงแล้วผลสำเร็จในธุรกิจวัดกันที่ "ใครได้กำไรมากกว่ากันต่างหาก" ที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดต่างหาก
หากคุณกำลังคิดที่จะขยายธุรกิจ ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มผู้ใช้งานมากขึ้น หรือสร้างการรับรู้ (perceptual) ของแบรนด์ให้มากขึ้น แต่คำถามที่สำคัญ คือ การทำสิ่งเหล่านั้นแล้วจะช่วยทำเงินอย่างไรได้บ้าง เพราะ "อย่าลืม กระแสเงินสดคือตัวขับเคลื่อนสำคัญของธุรกิจ" แม้แต่ธุรกิจที่ไม่มุ่งหวังผลกำไร ยังต้องมีค่าดำเนินการ ไม่งั้นก็อยู่ไม่รอดเช่นกัน
เคล็ดลับที่ 3 มีปฏิภาณไหวพริบมองหาโอกาสทางธุรกิจอยู่เสมอ
เดย์มอนด์ จอห์น ได้เล่าตัวอย่างจากหนังสือเล่มล่าสุดของเขาที่ชื่อ "The Power of Broke" เอาไว้ว่า มีเด็กวัยรุ่นชายคนหนึ่ง ที่มีคนติดตาม instagram ของเขาประมาณ 1 แสนคน โดยทุก ๆ วันจันทร์ เขาจะออกแบบลายเพื่อเพ้นท์ลงบนเสื้อยืด แล้วนำมาโพสต์ลงใน instagram ของเขา พร้อมข้อความใต้ภาพว่า "สำหรับเสื้อลายนี้ จะขายเพียงภายในเวลา 24 ชั่วโมงเท่านั้น หากเลยเวลานี้ไปจะไม่ผลิตอีกแล้ว
จากนั้นตลอดวันจันทร์ถึงวันอังคาร เขาก็ได้นำออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งเข้ามาในช่วง 24 ชั่วโมง เพื่อไปผลิตเสื้อตามคำสั่งซื้อ และวันพุธ พฤหัส ฯ และศุกร์ เขาก็ทำการส่งอีเมล์เพื่อแจ้งเลขพัสุดแก่ลูกค้าของเขา และเขาก็ทำซ้ำ ๆ เดิม ๆ แบบนี้ทุก ๆ สัปดาห์ โดยเริ่มออกแบบลายเสื้อใหม่ในวันจันทร์ และจนตอนนี้ครบปีแล้ว เขาก็สามารถทำเงินจากรูปแบบนี้ได้ประมาณ 120 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4 พันล้านบาทภายใน 1 ปี
นี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่ใช้โอกาสที่มีผู้ติดตามให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจขึ้นมา "ไอเดียและความสามารถ" ที่มีอยู่ของคุณ คือสิ่งแรกที่ต้องมี จากนั้นสร้างฐานผู้ติดตามของคุณขึ้นมา แล้วมอบคุณค่าบางอย่างให้แก่พวกเขา พวกเขาก็ยินดีที่แลกเปลี่ยนเป็นเงินตราแก่คุณ
เคล็ดลับที่ 4 ให้ความสำคัญกับตัวเลขทุกตัวในธุรกิจ
หากพบว่าตัวเลขการเงินในธุรกิจมันดูขัดแย้ง ไม่สมเหตุสมผลกับธุรกิจของคุณ ต่อให้คุณเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกก็สามารถ "เจ๊ง" ได้
มันจะดีกว่ามาก หากธุรกิจของคุณทำเงินได้ปีละ 100 ล้านบาทและมีกำไร 1 ล้านบาท คงไม่ดีแน่หากธุรกิจคุณมียอดขาย 1,000 ล้านบาท แต่กลับขาดทุน 10 ล้านบาท อย่าเข้าใจผิดว่า "ธุรกิจใครดีใครใหญ่กว่ากัน โดยวัดกันที่ยอดขาย" แต่แท้จริงแล้ววัดกันที่ "ใครได้กำไรมากว่ากันต่างหาก" ที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดต่างหาก
หากคุณกำลังคิดที่จะขยายธุรกิจ ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มผู้ใช้งานมากขึ้น หรือสร้างการรับรู้ (perceptual) ของแบรนด์ให้มากขึ้น แต่คำถามที่สำคัญ คือ การทำสิ่งเหล่านั้นแล้วจะช่วยทำเงินอย่างไรได้บ้าง เพราะ "อย่าลืม กระแสเงินสดคือตัวขับเคลื่อนสำคัญของธุรกิจ" แม้แต่ธุรกิจที่ไม่มุ่งหวังผลกำไร ยังต้องมีค่าดำเนินการ ไม่งั้นก็อยู่ไม่รอดเช่นกัน
เคล็ดลับที่ 5 เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าบริษัทของคุณ เดินทางมาถึงจุดใดแล้ว
เดย์มอนด์ จอห์น เล่าให้ฟังว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาการสร้างแบรนด์ FUBU ให้ติดตลาดนั้น พอถึงช่วงประมาณ 5 ปีของธุรกิจแฟชั่น ธุรกิจจะเริ่มมีอัตราการเติบโตช้า จำเป็นต้องหาว่า "อะไรคือสาเหตุ" และในตลาดเขาพูดถึงแบรนด์เราอย่างไรบ้าง หลักจากทีมงานของ FUBU ได้หาสาเหตุและพบว่า ในตลาดผู้คนเข้าใจว่าแบรนด์ FUBU ผลิตแต่ baggy jeans อย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากเป็นสินค้ายอดฮิตของแบรนด์ ทำให้ยอดขายไม่เติบโต ต่อให้คุณทุ่มโฆษณาว่า "ซื้อ FUBU เดี๋ยวนี้ ซื้อ FUBU กันเถอะ หรือ FUBU จัดหนัก ลดถล่มทลาย" เพีียงใด ผู้คนก็จะคิดว่า FUBU ชวนให้ชื้อแต่ baggy jeans เท่านั้น
ดังนั้นบริษัทต้องมาทบทวนตัวเองใหม่ เมื่อเดินทางถึงจุด ๆ นั้น การปรับเปลี่ยนแนวทางหรือกลยุทธ์ แม้แต่รูปแบบธุรกิจที่อาจฉีกแนวหรืือแหวกแนวไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ในเวลาที่เหมาะสมอาจจำเป็นอย่างยิ่งยวด เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตต่อยอดต่อไป
Article Credit: ceoblog.co
เปิดแผนไป่ตู้ (Baidu)
ก้าวสู่มหาอำนาจแห่งโลกปัญญาประดิษฐ์ (AI)
5 นาทีของ อีลอน มัสค์ และ บิล เกตส์
5 เคล็ดลับการหุงข้าว
ไม่ให้บูดเร็ว
20 เคล็ดลับ เศรษฐีสอนลูก
ทำตามแล้ว ไม่มีวันจน
ผู้ชายรู้ไว้ !!! 12 พฤติกรรมแย่ ๆ
ที่ผู้หญิงเห็นแล้ ว...เมินหนี
